นึกเมนู "แหนมย่างใบชะพลู" ตั้งแต่เมื่อคืน นอนคิดๆ ว่าจะทำอย่างไร ไม่เคยทำมาก่อน แถมไม่เคยกินอีกต่างหาก เคยกินบ่อยๆ ในร้านอาหารเวียดนามก็คือ "หมูย่างใบชะพลู"
พอดีซื้อแหนมหมูย่างแบบที่เขายังไม่ย่างเป็นห่อๆ 3 ชิ้นราคา 25 บาทให้เอามาย่างกินเอง เราเอามาทอดกินไปสองชิ้นแล้วก็เดินไปที่สวนในบ้านเด็ดใบชะพลูอ่อนๆ มาตระกร้านึง แตงกวาที่ซื้อจากตลาดนัดถุงละ 10 บาท เอามาล้างแช่น้ำยาล้างผักแช่ตู้เย็นเอาไว้
เอาแหนมมาย่างพอให้เกรียมๆ มันจะไหม้ก่อนจะสุก ก็แค่จะเอาไปทอดใส่น้ำมันเล็กน้อยพอให้ทั้งสองด้านเกรียมๆ จากนั้นก็เอา
เข้าไมโครเวฟสัก 1-2 นาที ถ้าใครอยากจะใส่ไมโครเวฟเลย
ก็ได้เพราะถ้าทอดอย่างเดียวมันจะไม่สุกด้านใน แต่มันจะทำให้หอมขึ้น ถ้าใครขยันก็เอาไปปิ้งให้หอม แต่เราไม่มีเตาก็ใช้วิธีนี้ดีที่สุดคะ
เอาแหนมย่างมาทอดกินกับผักเปล่าๆ
หรือจะกินกับข้าวก็อร่อย
วันนี้นึกอยากลองทำ
แหนมย่างใบชะพลู เดินไปเด็ดใบชะพ
ลูมาล้างน้ำพอแค่เอาฝุ่นออก ผักที่บ้านปลอดสารพิษแต่ะไม่ปลอดปัสสาวะสุนัข อิอิ
วิธีทำง่ายๆ สไตล์ดาว ไม่เคยทำอะไรยุ่งยากเพราะยากๆ ทำไม่เป็น แฮะๆๆ ผ่าครึ่งแหนมเป็นสองส่วนจากนั้นก็หั่นเป็นท่อนยาวๆ เลือกใบชะพลูใบใหญ่ๆ หน่อยจะได้ห่อได้ วิธีการห่อก็เหมือนกับเราห่อปอเปี้ยะ คือวางแหนมตรงกลางใบจากนั้นก็ม้วนปิิดหัวท้าย จากนั้นก็ใช้ไม้จิ้มฟันปักเอาไว้จะได้หลุด
ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยพอกระทะร้อนก็ทะยอยวางแหนมที่ห่อใบชะพลูแล้วลงไปนามกับกระทะจนใบชะพลูเริ่มเกรียมๆ ดึงไม้จิ้มฟันออกแล้วก็พลิกอีกด้านโดยไม่ต้องใช้ไม้จิ้มฟันปักเอาไว้อีกเพราะแหนมเริ่มจะติดกับใบชะพลู ทอดให้เกรียมทั้งสองด้าน
แหนมที่ทอดไว้แล้วจะทำให้หอมขึ้น พอเอาใบชะพลูมาทอดอีกจะได้กลิ่นใบชะพลูหอมๆ เมนูนี้จะกินเล่นๆ โดยมีผักต่างๆ มาแกล้ม หรือจะเป็นขิง พริกขี้หนู หอมแดงหั่นเป็นลูกเต๋า ก็ได้ หรือจะกินกับข้าวและผักต่างๆ ก็อร่อยคะ
ข้อมูลใบชะพลู: ใบชะพลูมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายของมนุษย์อย่างมาก คือแคลเซียม และวิตามินเอ ซึ่งจะมีสูงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย และสารคลอโรฟิล ส่วนสรรพคุณทางยานั้นช่วยบำรุงธาตุ แก้จุกเสียด การกินใบชะพลูมากๆ ชนิดที่เรียกว่ากินกันทุกวัน กินกันแทบทุกมื้อ เช่น ชาวบ้านภาคอีสานนั้น แคลเซียมที่มีในใบชะพลูจะเปลี่ยนเป็นแคลเซียมออกซาเลท ซึ่งถ้าสะสมมากๆ อาจกลายเป็นนิ่วในไตได้ แต่โดยทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวันก็ไม่มีใครกินชะพลูได้มากมายขนาดนั้น ถ้ากินใบชะพลูต้องกินร่วมกับเนื้อสัตว์ ร่างกายจึงใช้แคลเซียมที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
0 comments:
Post a Comment