ทำไมเราต้องมีเส้นสปาเก็ตตี้ติดบ้านไว้ (อุ่นใจกว่าเยอะ) เพราะมันเป็นอาหารสารพัดประโยชน์ ในวันที่เราไม่ได้หุงข้าว หรือหาเส้นขนมจีนมากินกับแกงไม่ได้ เราก็แค่ลวกเส้นเอามากินกับแกงต่างๆ หรือเอามาผัดกับกระเพรา หรือทำซอสแดงราด
มาดูกันคะ เมนูนี้เป็นซอสแดงใส่หมูสับ กุ้ง ทำง่ายๆ แค่ซื้อซอสสำหรับราดสปาเก็ตตี้สำเร็จรูปที่ขายทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้มีให้เลือกหลายรสชาติด้วย
- เริ่มแรกแค่หั่นหัวหอมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วผัดกับน้ำมันมะกอกหรือเนยจนหอมก็ใส่เนื้อสัตว์ที่เราต้องการผัดจนสุกก็ใส่ซอสสำเร็จรูปลงไป ชิมรสชาติตามชอบ ส่วนมากเวลาใส่ซอสแล้วมันจะออกเปรี้ยวนำ ถ้าชอบเค็มก็ใส่คนอร์หรือซอสหอยนางรมเพิ่มได้ ถ้าชอบรสชาติแบบไทยๆ ก็ใส่ซอสพริก กับน้ำตาลเพิ่ม
- ดาวจะแอบใส่ชีสสามเหลี่ยมตราวัวยิ้ม ไปสักก้อนสองก้อนไม่แน่นอน ต้องก้มดูพุงตัวเองก่อนถ้ายื่นมากใส่แค่ก้อนเดียว ถ้ายื่นน้อยใส่สองก้อน แต่ส่วนใหญ่จะยื่นมากเป็นประจำ (แฮะๆๆ)
- ปรุงเสร็จก็เอามาเทราดบนสปาเก็ตตี้ที่เราลวกเอาไว้ อย่าลืมเหยาะน้ำมันลงไปคลุกเส้นเอาไว้จะได้ไม่ติดกันด้วย
- แยกเส้นกับน้ำซอส แช่ตู้เย็นเก็บเอาไว้ทานได้หลายวัน ตอนเช้าๆ ก่อนไปทำงานก็หยิบเส้นใส่ชามราดซอสบนเส้น แล้วเอาเข้าไมโครเวฟ แล้ววิ่งไปแต่งตัว กลับออกมาก็ได้อาหารเช้าสไตล์อิตาเลี่ยนแล้วคะ
- สปาเก็ตตี้ซอสแดงอันนี้ใส่มะเขือเทศเพิ่มด้วย เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร จะบอกว่าเป็นคนกินมะเขือเทศไม่ค่อยเป็น แต่พยายามกิน ที่เชียงใหม่มีมะเขือเทศราชินีเยอะมาก ถ้าหน้าหนาวซื้อได้โลละ 30 บาท หรือบางทีแม้วลดให้เหลือ 20 บาทก็มี เราก็จะล้างแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ใส่กล่องแช่แข็งเอาไว้ เพราะกินไม่ทัน ที่ทำประจำคือจะเอามะเขือเทศราชินี สัปปะรด สตอเบอรี่ บีทรูทหั่นแช่แข็งเอาไว้ แล้วก็เอามาปั่นกินโดยไม่ใส่น้ำแข็งเพราะผลไม้เราเย็นแล้ว เป็นการทำให้เรากินมะเขือเทศได้ กับอีกอย่างคือจะเอามาใส่ในซอสแดงผัดให้มันเละๆ หน่อยก็กินได้แล้ว
- การที่เราแช่แข็งทำให้เราเก็บเอาไว้ทำได้หลายมื้อ ถ้ากินไม่หมดก็ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ
- เบื่อผัดกระเพราราดข้าวลองผัดกระเพราแล้วเอามาราดบนสปาเก็ตตี้ผัดให้มีน้ำเยอะหน่อยจะได้คลุกเส้นได้ทั่วๆ หรือถ้าชอบรสจัดๆ ก็เอาไปผัดรวมกันเลย จะใส่ใบมะกรูดลงไปด้วย หรือจะผัดขี้เมาใส่กระชาย เม็ดพริกไทอ่อนก็อร่อย
- ทำสตูไก่ก็เอาสปาเก็ตตี้มากินด้วย
- สปาเก็ตตี้กระเพราหมูเด้งๆ สับ แ ล้วหมักสะโพกกับเกลือเอาไว้ ทอดไฟอ่อนๆ ให้หนังกรอบๆ เอามากินด้วยกัน
0 comments:
Post a Comment